ทราบขั้นตอนจาก FSSAI ก่อนส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยไปอินเดีย
“อินเดีย” นับเป็นตลาดบริโภคขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ทั้งพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนที่เริ่มเปิดรับวัฒนธรรมอาหารการกินและเกิดการผสมผสานวัตถุดิบต่างท้องที่มากขึ้น โดยสถาบัน McKinsey คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 ตลาดบริโภคของอินเดียจะเติบโตเป็นอันดับ 5 ของโลก ด้วยประชากรกว่า 1,200 ล้านคน นั่นหมายถึงอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องของอินเดียจะต้องพร้อมและเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากปัจจุบัน ทำให้ปัจจัยด้าน “คุณภาพและมาตรฐาน” เป็นสิ่งชี้วัดสำคัญที่รัฐบาลอินเดียคาดหวังจากตลาดวัตถุดิบรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่จะนำมาป้อนสู่ตลาดบริโภคในอนาคต
ที่ผ่านมาหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยด้านอาหารของอินเดีย หรือ Food Safety and Standards Authority of India : FSSAI ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสวัสดิการสุขภาพและครอบครัว
(Ministry of Health & Family Welfare) จะเป็นผู้คัดกรอง ตรวจสอบการผลิต การจำหน่าย และการกระจายสินค้าบริโภคทั้งที่มาจากภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศด้วยมาตรการขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ก่อนถึงประชาชนผู้บริโภค เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุมพิเศษและอ่อนไหวอาทิ วัตถุดิบทางการเกษตร ผัก ผลไม้ หรืออาหารแปรรูปประเภทต่าง ๆ
สำหรับการนำเข้า “ผลิตภัณฑ์อาหาร” หรือ “วัตถุดิบ” ก่อนจะวางขายในประเทศอินเดียได้ จำเป็นต้องได้รับใบรับรองชื่อว่า No Objection Certificate : NOC จาก FSSAI ควบคู่กับการยืนยันจาก National Codex Committee : NCC ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่ผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยและได้รับอนุญาตให้นำออกจากคลังสินค้าศุลกากร พร้อมกระจายออกจำหน่ายสู่ตลาดได้ โดยต้องมีเอกสารครบถ้วนตามระเบียบ เช่น ใบรับรองแหล่งกำเนิดและเอกสารรายงานผลวิเคราะห์ของห้องปฏิบัติการตรวจสอบ ที่ระบุผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการเรื่องสารปนเปื้อน สารตกค้าง การเคลือบสาร รวมถึงเอกสารสุขอนามัยพืช และการติดฉลาก เป็นต้น
เริ่มจาก ผู้นำเข้า ต้องยื่นขอใบอนุญาตและปฏิบัติตามระเบียบกับทาง FSSAI โดยจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และขอรหัสผู้นำเข้าและส่งออกที่ออกโดยอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศของอินเดีย เพื่อขออนุมัติการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่อไป
เมื่อผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเข้าจากต่างประเทศมาถึงจุดหมายยังคลังหรือท่าเรือสินค้าประเทศอินเดีย FSSAI ได้กำหนดขั้นตอนก่อนถึงมือผู้ประกอบการหรือผู้บริโภคไว้ดังนี้
1) การตรวจ/ปล่อยและพิธีการศุลกากร (Customs Clearance)
ผู้นำเข้าจะต้องทำหนังสือมอบอำนาจ (Authorized Letter) ให้กับตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร (Customs Handling Agent) และให้ทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ FSSAI พร้อมจัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้าให้กับเจ้าหน้าที่ศุลกากรตามปริมาณที่กำหนด เพื่อทำการประเมินและชำระภาษีกับเจ้าหน้าที่
2) ขอใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยด้านอาหารของอินเดีย (FSSAI Clearance)
ตัวแทนผู้นำเข้าต้องยื่น “ใบขอตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร” ผ่านระบบการตรวจผ่านผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้าของ FSSAI ซึ่งภายหลังจากผ่านการตรวจผ่านเรียบร้อยแล้ว ผู้นำเข้าจะได้รับ “ใบรับรองไม่คัดค้าน” (No Objection Certificate: NOC) พร้อมกรอกรายละเอียดและแนบหลักฐานลงบนเว็บไซต์ของหน่วยงาน FSSAI ดังนี้
– รหัสผู้นำเข้าและส่งออกที่ออกโดยอธิบดีการค้าต่างประเทศของอินเดีย
– ใบอนุญาตประกอบธุรกิจอาหารจากหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยด้านอาหารของอินเดีย (FSSAI)
– ใบแสดงปริมาณและมูลค่าของผลิตภัณฑ์
– ใบสั่งการตรวจสอบที่ทำขึ้นโดยระบบ EDI ของศุลกากร
3) การตรวจสอบและการสุ่มตัวอย่างของผลิตภัณฑ์อาหาร (Inspection and Sampling of the Consignment)
เมื่อผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เจ้าของผลิตภัณฑ์จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตามจำนวนผลิตภัณฑ์ของกลุ่มตัวอย่าง โดยเจ้าหน้าที่จะกำหนดวันและเวลาสำหรับการตรวจสอบทางกายภาพของผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งได้แก่ การตรวจสอบทางกายภาพของผลิตภัณฑ์อาหาร และ การตรวจสอบอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์อาหาร ที่เหลืออยู่ต้องมากกว่าร้อยละ 60 ตามอายุการเก็บรักษา
“การบรรจุภัณฑ์และฉลาก” ต้องระบุชื่อผลิตภัณฑ์หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว รวมถึงชื่อและที่อยู่ของ ผู้นำเข้า โลโก้ของ FSSAI และ หมายเลขใบอนุญาต ตลอดจนฉลากสัญลักษณ์เพื่อแยกประเภทมังสวิรัติหรือไม่มังสวิรัติ
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้าจะถูกส่งไปตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ FSSAI และห้องปฏิบัติการวิจัยจะวิเคราะห์ตามข้อกำหนดของ FSSAI โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 5 วันทำการ ในกระบวนการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร แต่หากเป็นสินค้าปประเภทผักหรือผลไม้ ที่มีอายุบนชั้นวางเฉลี่ยประมาณ 7-9 วัน ทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 3-5 วัน จากนั้นห้องปฏิบัติการวิจัยจะส่งผลการประเมินตรวจสอบผลิตภัณฑ์นั้น ๆ
4) การได้รับการอนุมัติของผลิตภัณฑ์อาหารเข้ามาในอินเดีย (Approval of Food Product into India)
เมื่อห้องปฏิบัติการออกใบสรุปรายงานว่าผลิตภัณฑ์อาหารสอดคล้องกับข้อกำหนดของ FSSAI แล้ว เจ้าหน้าที่จะออกใบรับรอง NOC และใบ NCC ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์อาหารผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จะได้รับอนุญาตให้นำผลิตภัณฑ์ทั้งหมดออกจากคลังสินค้าศุลกากรได้เพื่อนำไปจำหน่ายในลำดับต่อไป
อินเดียและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางการค้ามายาวนาน ทั้งมีการอัตราการขยายตัวด้านการ นำเข้า-ส่งออกระหว่างกันสูงขึ้นในแต่ละปี ทำให้ผู้ประกอบการไทยยิ่งต้องให้ความสำคัญต่อการรักษาคุณภาพมาตรฐานของสินค้าทุกประเภทก่อนส่งออกมายังตลาดผู้บริโภค เพื่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าไทย นอกจากนี้ผู้ประกอบการและตัวแทนผู้นำเข้ายังจำเป็นต้องศึกษากฎระเบียบและข้อมูลภาษีบางประเภทตามข้อกำหนดของรัฐบาลอินเดียเพื่อสามารถดำเนินธุรกิจกิจการได้อย่างถูกต้องและมั่นคง
ที่มาข่าวจาก : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ลงทะเบียนเข้างาน Pre-VISITOR Online ได้แล้ววันนี้ พร้อมลุ้นจับรางวัลของรางวัลพิเศษภายในงานทุกวัน :
ลงทะเบียน คลิ๊กเลย!!!