FTA “อียู-เวียดนาม” ปลดล็อกการค้า-ดูดลงทุน

1.7K



FTA “อียู-เวียดนาม” ปลดล็อกการค้า-ดูดลงทุน

ข้อตกลงการค้าเสรีของสหภาพยุโรป (อียู) และเวียดนาม หรือ “EVFTA” กลายเป็นกรอบความตกลงที่ครอบคลุมฉบับแรกที่อียูทำร่วมกับประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย โดยตกลงจะลดภาษีนำเข้าสูงสุด 99% ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า “อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป” ของเวียดนามจะได้ประโยชน์สูงสุด ท่ามกลางการคว่ำบาตรของอียูใน “กัมพูชาและเมียนมา”

แถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เผยว่า ขณะนี้ได้ยื่นขออนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีกับ “เวียดนาม“ จากสหภาพของอียูทั้งหมด 28 ประเทศ รวมถึงจากรัฐสภาของยุโรปด้วย คาดว่าขั้นตอนสุดท้ายจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้

ทั้งนี้ รายละเอียดของข้อตกลง EVFTA เตรียมจะยกเลิกภาษีศุลกากร 99% ของสินค้านำเข้าทั้งหมด ยกเว้นในบางหมวดสินค้าที่กำหนดให้มีระยะเวลา และถูกจำกัดด้วยโควตา

แถลงการณ์ระบุว่า เวียดนามจะลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ของอียู จาก 78% เหลือ 0% ในระยะเวลา 10 ปี สำหรับอะไหล่รถยนต์ปัจจุบันภาษีนำเข้า 32% และรถบิ๊กไบก์เครื่องยนต์ 150 ซีซีขึ้นไป อัตราภาษีนำเข้าอยู่ที่ 75% ก็จะปรับลดเป็น 0% ในระยะเวลา 7 ปี นอกจากนี้ ภาษีนำเข้าไวน์และสุราจากอียู ที่ปัจจุบันเรียกเก็บที่ 50% เวียดนามจะปรับลดภาษีให้เหลือ 0% ในระยะเวลา 7 ปีเช่นกัน

นายกรัฐมนตรี “เหงียน ซวน ฟุก” ให้คำมั่นว่าจะปกป้องผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของอียู จากการลอกเลียนแบบในเวียดนาม ทั้งหมด 169 รายการ เช่น แชมเปญ, ไวน์ริโอฮา ที่โด่งดังที่สุดของสเปน, เฟตาชีส และชีสปาร์มิจิอาโน เรจจิอาโน สินค้ายอดนิยมที่อียูส่งออกไปทั่วโลก

สำหรับ “อียู” แม้ว่าจะยังไม่สามารถเปิดตลาดสำหรับสินค้าเกษตรจากเวียดนามได้สมบูรณ์ เพราะเป็นสินค้าอ่อนไหว

แต่อียูเสนอให้ใช้ “ระบบโควตา” เพื่อรับการยกเว้นภาษี โดยจะเปิดโควตาสำหรับสินค้าเกษตรของเวียดนามหลายประเภท เช่น ข้าว ข้าวโพด เห็ด น้ำตาล และทูน่ากระป๋อง เป็นต้น

ขณะที่คำมั่นสัญญาของอียูต่อเวียดนาม คือ การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชั้นนำของเวียดนามในตลาดอียู อาทิ ชา Moc Chau และเมล็ดกาแฟ Buon Ma Thuot สินค้าส่งออกเบอร์ต้น ๆ ของเวียดนาม

ที่น่าสนใจก็คือ อียูจะยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปและรองเท้า ให้เหลือ 0% จาก 12% เป็นเวลา 7 ปี โดยที่เวียดนามจะต้องใช้วัตถุดิบจากอียู หรือประเทศที่มีข้อตกลงร่วมกับอียู เช่น เกาหลีใต้ เพื่อพัฒนาคุณภาพของสินค้าร่วมกัน

ศ.คลาวดิโอ ดอร์ดี หัวหน้าทีมสนับสนุนโครงการช่วยเหลือด้านการค้าและการลงทุนของยุโรปในเวียดนาม (EU-MUTRAP) กล่าวว่า ข้อตกลง EVFTA จะเอื้อประโยชน์ต่อสินค้าของเวียดนามให้เข้าสู่ตลาดอียูมากขึ้น โดยเฉพาะอุตฯสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงรองเท้า ซึ่งได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากการที่อียูเตรียมคว่ำบาตร “กัมพูชา” และเมียนมาจะเป็นคิวต่อไป ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของอียูในเอเชีย

“ข้อตกลงนี้จะช่วยดึงดูดนักลงทุนอียูในธุรกิจสิ่งทอและรองเท้า ให้มาใช้เวียดนามเป็นฐานผลิตแห่งใหม่ แม้ว่าอัตราค่าแรงงานในเวียดนามสูงกว่ากัมพูชา แต่ศักยภาพและจำนวนของแรงงาน เหมาะสมที่จะเป็นฮับด้านการผลิตในเอเชีย” ศ.ดอร์ดีกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมรถยนต์ของเวียดนามกล่าวกับ “เวียดนามนิวส์” ว่า หากข้อตกลง EVFTA ประกาศใช้น่าจะทำให้การนำเข้ารถยนต์จากยุโรปเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เวียดนามนำเข้ารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่

นักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่งระบุว่า ข้อตกลงนี้จะส่งผลให้เวียดนามสามารถเพิ่มการส่งออกไปอียูได้จากปัจจุบันราว 4-6% ขณะเดียวกัน ธุรกิจยุโรปก็จะเข้ามาลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคธุรกิจการเงิน การผลิตรถยนต์ และการเกษตรเชิงนวัตกรรมขั้นสูง

ทว่าสมาชิกของอียูบางส่วนยังวิตกกังวลในเรื่อง “สิทธิมนุษยชน” ในเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลเวียดนามยังใช้ระบอบการปกครองแบบ “คอมมิวนิสต์” โดยที่รัฐบาลเวียดนามรับปากว่าจะพยายามสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยแบบเต็มใบร่วมกับอียู

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :  www.prachachat.net

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

sendLINE

Comment