เวียดนาม ลับมีดปรับ 2 นโยบายเด่น ชูส่งออกข้าวมูลค่าสูง-ฟื้นโปรเจ็กต์ถ่านหิน
นักวิเคราะห์ทั่วโลกขานรับ “เวียดนาม” ในฐานะประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงในระดับเดียวกับ “อินเดีย และบังกลาเทศ” ขณะที่เวิลด์แบงก์ระบุในรายงาน “The World in 2050” ประเมินว่า เวียดนามจะเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปีจนถึงปี 2050 จากนโยบายการบริหารประเทศที่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เวียดนาม คาดว่าจะเป็นประเทศได้รับการเลื่อนลำดับชั้นของขนาดเศรษฐกิจเร็วที่สุด คือจากอันดับที่ 32 ของเศรษฐกิจโลก ปี 2016 เป็นอันดับที่ 29 ในปี 2030 และอันดับที่ 20 ในปี 2050
ล่าสุด รัฐบาลเวียดนามประกาศแผนการปฏิรูปการผลิตข้าว “ระยะยาว”เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดส่งออกข้าวเวียดนาม ปี 2017-2020 ซึ่งจะเป็นการวางวิสัยทัศน์ไปจนถึงปี 2030 “เวียดนามเน็ต” รายงานว่า รัฐบาลปรับปรุงแผนการส่งออกข้าว จากเดิมที่เน้นที่ “ปริมาณ” การส่งออกข้าวปรับเป็นเน้นการสร้าง “มูลค่าเพิ่มข้าว” เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ “ข้าว” ถือเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอันดับหนึ่ง
แผนการปฏิรูปคุณภาพมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวเวียดนาม เพื่อทำให้เวียดนามกลายเป็นผู้เล่นในตลาดข้าวเบอร์ต้น ๆ ของโลก ตามเป้าหมายในปี 2020 เวียดนามจะส่งออกข้าวรายปีอยู่ที่ 4.5-5 ล้านตัน และจะสร้างรายได้ให้กับประเทศอยู่ที่ราว 2,200-2,300 ล้านดอลลาร์ต่อปี และตั้งแต่ปี 2021-2030 ปริมาณการส่งออกข้าวรายปีจะลดลงเหลือ 4 ล้านตัน แต่จะสร้างรายได้ให้กับเวียดนาม เพิ่มขึ้นเป็น 2,300-2,500 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังปรับเปลี่ยนโครงสร้างผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อการส่งออก โดยจะเน้นส่งออก “ข้าวหอมพันธุ์พิเศษ” และ “ข้าวจาปอนิกา” คิดเป็นสัดส่วน 40% มากที่สุดของปริมาณการส่งออกข้าวทั้งหมด ตามด้วย “ข้าวเหนียว และข้าวขาว” สัดส่วน 25% และข้าวคุณภาพสูง ข้าวออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว สัดส่วน 10%
“บรรดาผู้ส่งออกข้าวเวียดนามพยายามเจาะตลาดข้าวคุณภาพสูง แต่ต้องเพิ่มห่วงโซ่อาหารมากขึ้น โดยที่ผ่านมาพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง มีแบรนด์ข้าวคุณภาพเกิดขึ้นถึง 12 แบรนด์ เช่น หง็อก เจ่ย และหง็อก ด่ง”
พร้อมกันนี้ รัฐบาลประกาศเพิ่มบทบาทข้าวคุณภาพสูงในตลาดส่งออกแห่งใหม่ เช่น ประเทศแอฟริกา โดยประเมินว่าสัดส่วนการครองตลาดข้าวเวียดนามในแอฟริกายังต่ำ
สำหรับโครงการพัฒนาถ่านหินฉบับใหม่ รัฐบาลจะลงทุนสร้างโรงงานคัดแยกถ่านหิน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2020 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ Vang Dang 2, Khe Than, Khe Cham และ Lep My ด้วยกำลังการผลิต 2 ล้านตันต่อปี, 2.5 ล้านตัน, 7 ล้านตัน และ 4 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ
นอกจากนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายจะจัดตั้งศูนย์ประมวลผลถ่านหินและคลังสินค้ากลาง ซึ่งจะตั้งอยู่ในเขตฮอนไก เนื่องจากมีท่าเรือฮอนไก ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญและเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขนถ่ายสินค้าของเวียดนาม โดยคาดว่าอินโดนีเซียจะเข้ามาช่วยเหลือด้านการออกแบบ ตลอดจนความร่วมมือในการสำรวจแหล่งพื้นที่ถ่านหินเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์มองว่า หากแผนยุทธศาสตร์การสร้างมูลค่าเพิ่ม “ข้าว” และโครงการพัฒนาเหมืองถ่านหินประสบความสำเร็จ หมายความว่าเวียดนามจะกลายเป็นประเทศที่มีบทบาททางเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันก็กลายเป็นตลาดที่มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามามากที่สุดด้วย
ที่มาข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ
ลงทะเบียนเข้างาน Pre-VISITOR Online ได้แล้ววันนี้ พร้อมลุ้นจับรางวัลของรางวัลพิเศษภายในงานทุกวัน : ลงทะเบียน คลิ๊กเลย!!!

Comment
New!

สถาปนิก 68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

หากท่านอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ไม่ควรพลาดงานนี้ !! งาน Thailand Oil & Gas Roadshow 2024

สถาปนิก’68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างชั้นนำกว่า 600 บริษัท ตบเท้าร่วมงานสถาปนิก’67 พร้อมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ
Popular

ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย

การส่งกำลังโดยใช้สายพาน

ประเภทสกรูและน็อต อุตสาหกรรม