แซ่ซ้อง 2 ล้นเกล้า ปีติ ‘ราชินี’ ทรงโบกพระหัตถ์
พระพักตร์แจ่มใสแย้มพระโอษฐ์ ‘ทรงพระเจริญ’ กึกก้อง2ข้างทาง เสด็จประทับพักฟื้นวังไกลกังวล
ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมเสื้อสีเหลือง หลั่งไหลเดินทางมา รพ.ศิริราช เพื่อเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่างแซ่ซ้องเปล่งเสียงถวายพระพรทรงพระเจริญดังกึกก้อง หลายคนต่างหลั่งน้ำตาด้วยความสุข เมื่อเห็น 2 พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์
นับเป็นวันแห่งความปีติยิ่งของพสกนิกรชาวไทยอีกครั้ง หลังจากที่ได้ทราบข่าวจากสำนักพระราชวัง และสื่อต่างๆ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 10 พ.ค. เพื่อเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ และฟื้นฟูพระวรกายในพื้นที่อากาศบริสุทธิ์
ทำให้ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 9 พ.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 10 พ.ค. พสกนิกรทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง นำพระบรมฉายาลักษณ์ ธงตราสัญลักษณ์ ภปร.และ สก.ธงชาติไทย ทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่ริมถนนหน้าตึกอำนวยการ รพ.ศิริราช ตั้งแต่หน้าตึกกายวิภาค ไปจนถึงประตู 8 (ประตูท่าน้ำ) รพ.ศิริราช เพื่อรอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จและหวังได้ชื่นชมพระบารมีของทั้ง 2 พระองค์อย่างใกล้ชิด ส่งผลสองฝั่งถนนซึ่งเป็นเส้นทางเสด็จฯ ภายใน รพ.ศิริราช เนืองแน่นไปด้วยผู้คน แม้ว่าอากาศจะร้อนจัด แต่ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของพสกนิกรที่มารอรับเสด็จ ลดน้อยถอยลงแต่ประการใด กลับกัน ยิ่งใกล้เวลาเสด็จฯประชาชนยิ่งแห่มาจับจองพื้นที่สองฟากถนนข้าง รพ.ศิริราช และตามเส้นทางเสด็จฯ เพื่อรอรับเสด็จกันอย่างคึกคัก
กระทั่งเวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ในฉลองพระองค์เสื้อเชิ้ตสีแดง และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในฉลองพระองค์เสื้อสีม่วงลายดอกไม้สีฟ้า เสด็จลงจากที่ประทับ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ด้วยพระพักตร์แจ่มใสทั้งสองพระองค์ โดยมี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พร้อมผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ คณะแพทย์และพยาบาล เฝ้ารับเสด็จ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ทะเบียน 1ด 3901 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ทะเบียน 1ด 0968
เมื่อขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนจากชั้นใต้ดินอาคารเฉลิมพระเกียรติ แล่นผ่านหน้าตึกกายวิภาค เลี้ยวขวาผ่านตึกเทคนิคการแพทย์ ตึกอำนวยการทั้งสองพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระโอษฐ์ให้พสกนิกรที่มา เฝ้ารับเสด็จ ตลอดสองข้างทาง ทำให้บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติที่ได้เห็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้น จากนั้นขบวนรถตู้พระที่นั่งเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลศิริราชทางประตู 8 (ประตูท่าน้ำ) เลี้ยวขวาที่สี่แยกโรงพยาบาลศิริราช ตลอดทั้งสองข้างทาง พสกนิกรที่เฝ้ารอรับเสด็จต่างโบกธงตราสัญลักษณ์ ภปร. ธงตราสัญลักษณ์ สก.และธงชาติไทย พร้อมกับเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ขณะที่ผู้มารอรับเสด็จ บางรายได้ชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งสองพระองค์ไว้เหนือศีรษะ ขณะที่บางคนก็ก้มลงกราบด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
จากนั้นขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนขึ้นสะพานอรุณอมรินทร์ ขึ้นทางยกระดับลอยฟ้าบรมราชชนนี ลงแยกฉิมพลี เข้าถนนกาญจนาภิเษก แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่ถนนเพชรเกษม ซึ่งตลอดเส้นทางที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งแล่นผ่าน ทั้ง จ.สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี เพื่อเข้าสู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพสกนิกรจำนวนมาก รวมถึงนายปัญญา งานเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พล.ต.ชวลิต พงษ์พิทักษ์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.ภ.จ.สมุทรสงคราม หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น พร้อมใจสวมใส่เสื้อเหลืองมารอเฝ้า ทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีของทั้ง 2 พระองค์ โดยพร้อมเพรียง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ แต่ไม่ทำให้ผู้ที่เฝ้ารอรับเสด็จ ล่าถอยแต่อย่างใด และเมื่อรถยนต์พระที่นั่งของทั้งสองพระองค์เคลื่อนผ่าน ทุกคนได้ร่วมกันโบกธงและเปล่งเสียง ถวายพระพรว่าทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง
ขณะที่บรรยากาศใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงสาย ประชาชนจากทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ามาจับจองพื้นที่ฟุตปาทถนนเพชรเกษม หน้าวังไกลกังวล เพื่อรอรับเสด็จ ล้นเกล้า ล้นกระหม่อมทั้งสองพระองค์อย่างใจจดใจจ่อ โดยแต่ละคนสวมเสื้อสีเหลืองพร้อมถือภาพพระบรม ฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ ธงชาติ และธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์มาอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วม 500 นาย คอยดูแลความปลอดภัยและจัดการจราจรอย่างเข้มงวด
กระทั่งเวลาประมาณ 15.59 น.พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จฯถึงยังพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่ามกลางเสียงของพสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จ ร่วมกันเปล่งคำถวายพระพรว่า “ทรง พระเจริญ” ดังกึกก้องและต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยผู้รอรับเสด็จแต่ละคนต่างมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข เมื่อได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมี พระพักตร์แจ่มใส พระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์
จากการสอบถามผู้มารอรับเสด็จ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปลาบปลื้มใจมากที่ได้เห็นทั้งสองพระองค์ทรงมี พระพลานามัยแข็งแรง อาทิ นางชลอม เมืองบุญ อายุ 78 ปี ชาวปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่เฝ้ารับเสด็จ ที่ รพ.ศิริราช เปิดเผยว่าได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รู้สึกดีใจมาก พระองค์ดูสดใส สุขภาพแข็งแรง ทำให้รู้สึกสบายใจ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เช่นเดียวกับนางมานิตย์ เลี่ยมงาม อายุ 54 ปี
ประธานชมรมคนรักในหลวง ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร เปิดเผยว่า ทราบข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จฯไปประทับที่หัวหิน ก็ได้รวมตัวคนในชมรม 10 คน เดินทางมารับเสด็จพระองค์ท่าน โดยเดินทางมาตั้งแต่ตี 4 มานั่งรอตั้งแต่เช้า แม้อากาศจะร้อน แต่ ได้เห็นพระองค์ท่านก็หายร้อนไปทันที พระองค์เป็นเหมือนร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ประชาชนได้ร่มเย็น และพวกเราอยากให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นพวกเราและรับทราบว่า เรายังรักและหวงแหนในแผ่นดินของท่าน
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯจากวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.2557 เพื่อประทับรักษาพระอาการประชวร ต่อมาสำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปรอท (ไข้) สูง 38.2 องศาเซลเซียส ผลการตรวจพระโลหิตแสดงว่ามีภาวะติดเชื้อ มีการเปลี่ยน แปลงในความดันพระโลหิต และอัตราการเต้นของพระหทัยเร็วขึ้น คณะแพทย์จึงกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อถวายการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ จากนั้นเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2557 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 12 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด คณะแพทย์ได้รายงานว่าพระอาการทั่วไปดีขึ้น และพระวรกายแข็งแรงเป็นลำดับ กระทั่งเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน ไปประทับ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะเวลาที่เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช 220 วัน โดยสำนักพระราชวังงดการลงนามถวายพระพรพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาศิริราช 100 ปี รพ.ศิริราช ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/497968

Comment
New!

สถาปนิก 68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

หากท่านอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ไม่ควรพลาดงานนี้ !! งาน Thailand Oil & Gas Roadshow 2024

สถาปนิก’68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างชั้นนำกว่า 600 บริษัท ตบเท้าร่วมงานสถาปนิก’67 พร้อมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ
Popular

ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย

การส่งกำลังโดยใช้สายพาน

ประเภทสกรูและน็อต อุตสาหกรรม