คลังยืนแวต7%อุ้มเศรษฐกิจ เสนอเคาะต่อเวลาครั้งละ1ปี แจงยังรีดภาษีได้อีกเพียบ

1.7K



คลังยืนแวต7%อุ้มเศรษฐกิจ เสนอเคาะต่อเวลาครั้งละ1ปี แจงยังรีดภาษีได้อีกเพียบ

คลังยันคงภาษีแวต 7% แจงภาวะเศรษฐกิจไม่เหมาะขยับเพิ่ม ก่อนเสนอรัฐบาลเคาะเวลา ชี้ควรขยายแบบปีต่อปีไปก่อน ย้ำรัฐยังมีความสามารถเก็บภาษีได้

นายรังสรรค์ ศรีวรศาตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะไม่ปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ตอนนี้ให้ลดอัตราการเก็บจาก 10% เป็น 7% จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2558 โดยจะให้ขยายเวลาการลดอัตราภาษีออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาลว่าจะให้ขยายเวลาออกไปกี่ปี

"ปีนี้ไม่มีการเพิ่มอัตราภาษีแวตอย่างแน่นอน เพราะการเก็บภาษีของกรมสรรพากรของปีงบประมาณ 2559 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา อยู่ภายใต้สมมติฐานไม่มีการเพิ่มอัตราภาษีแวต โดยยังให้เก็บในอัตราเดิม 7% ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังเห็นว่าควรขยายเวลาออกไปครั้งละ 1 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล" นายรังสรรค์กล่าว

นายรังสรรค์กล่าวอีกว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ช่วงการฟื้นตัว แต่ยังเปราะบางจากผลกระทบเศรษฐกิจนอกประเทศ การปรับเพิ่มขึ้นภาษีแวตในช่วงนี้จึงไม่เหมาะสม เพราะการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เป็นการไปดึงเงินออกจากกระเป๋าของประชาชนให้มีน้อยลง ทำให้กระทบการบริโภคและการลงทุนของประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนต่อเนื่อง หากปรับเพิ่มขึ้นภาษีแวตจะทำให้การบริโภคและการลงทุนชะงักและเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวไม่ได้ตามเป้าที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าไว้ 3.7% ต่อปี

นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นการเก็บภาษีเพิ่มโดยการเพิ่มอัตราภาษี เพราะยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บได้ ในส่วนของกรมสรรพากรก็จะมีมาตรการป้องกันการทุจริตการขอคืนภาษีปลอม กรมสรรพสามิตก็จะเข้มงวดสินค้าหนีภาษีและสินค้าลักลอบ โดยช่วงนี้มีการลักลอบน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลถูกกว่าในประเทศมากถึงลิตรละ 10 บาท ด้านกรมศุลกากรได้มีการเข้มงวดการสำแดงราคานำเข้าให้ตรงกับความเป็นจริง

ขณะเดียวกัน กรมภาษีทั้งกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรได้มีการแก้ไขกฎหมายครั้งใหญ่ คาดว่าภายในปีนี้จะมีผลออกมาบังคับใช้ทำให้ประสิทธิภาพการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นได้อีกมาก รวมทั้งเงินคงคลังของประเทศยังอยู่ในระดับสูงกว่า 1 แสนล้านบาท เพียงพอกับการใช้จ่ายของประเทศ

นายรังสรรค์กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังยังมีแผนเพิ่มรายได้ จากการให้รัฐวิสาหกิจนำส่งเงินรายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังให้กองทุนหมุนเวียนต่างๆ ที่มีสภาพคล่องส่วนเกินให้ส่งเงินให้คลัง ที่ผ่านมาได้นำส่งมาแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงทางกรมธนารักษ์จะเพิ่มรายได้จากการพัฒนาที่ราชพัสดุมากขึ้น ทำให้การเก็บรายได้ของประเทศ ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มอัตราภาษีใดๆ เพิ่มในปีนี้

นายสมชาย พูลสวัสด์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีของกรมในปีงบประมาณ 2559 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา อยู่ภายใต้สมมติฐานที่ไม่มีการเพิ่มอัตราภาษีสินค้าต่างๆ เพิ่ม แต่จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บมากขึ้น.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : http://www.thaipost.net

 

sendLINE

Comment