สศค. เผย ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ค. ร่วงระดับ 65.0 ต่ำสุดรอบ 11 เดือน

1.5K



สศค. เผย ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ค. ร่วงระดับ 65.0 ต่ำสุดรอบ 11 เดือน

 
สศค. เผย ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ค. ร่วงระดับ 65.0 ต่ำสุดรอบ 11 เดือน
 

สศค.เผยเศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค. ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงมาอยู่ที่ระดับ 65.0 ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน จากบริโภค-ลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัว ขณะที่ท่องเที่ยวเติบโตแข็งแกร่ง ส่งออกหดตัวต่อเนื่อง พร้อมติดตามภัยแล้งอย่างใกล้ชิด


เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยเศรษฐกิจไทย เดือน พ.ค. 2558 พบว่า ด้านอุปสงค์ การใช้จ่ายรัฐบาลเป็นแรงสนับสนุนสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัวอยู่บ้าง ขณะที่การส่งออกมีการหดตัวต่อเนื่อง สำหรับด้านอุปทานได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยว แม้ว่าผลผลิตภาคเกษตรกรรมยังคงหดตัว และควรต้องติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด ในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยทั้งภายในและภายนอกประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี

ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุดในรายละเอียดพบว่า การบริโภคภาคเอกชนในเดือนพฤษภาคม 2558 ส่งสัญญาณแผ่วลงเล็กน้อย สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศ ณ ราคาคงที่ ในเดือน พ.ค. 2558 ที่แม้ยังคงขยายตัวได้ที่ร้อยละ 11.6 ต่อปี แต่ในด้านที่จัดเก็บบนฐานการนำเข้า ณ ราคาคงที่ ยังคงหดตัวที่ร้อยละ -19.4 ต่อปี ส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในภาพรวมหดตัวร้อยละ -2.5 ต่อปี และหดตัวร้อยละ -2.8 ต่อเดือน สำหรับการบริโภคสินค้าคงทนยังคงหดตัว สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์หดตัวร้อยละ -5.4 ต่อปี แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 16.3 ต่อเดือน โดยเป็นการขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนของยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั้งใน เขตกรุงเทพฯ (6.0 ต่อเดือน) และเขตภูมิภาค (14.2 ต่อเดือน) สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่หดตัวลดลงจากร้อยละ -17.8 ต่อปี ในเดือนก่อนหน้ามาหดตัวลดลงในเดือน พ.ค. 2558 อยู่ที่ร้อยละ - 10.8 ต่อปี ตามดัชนีผลผลิตสินค้าและราคาสินค้าเกษตรกรรมที่หดตัวลดลง ขณะที่ ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง ยังคงหดตัวต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ -21.1 ต่อปี และหดตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ -9.1 ต่อเดือน

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 65.0 นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าว และยางพาราที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อโดยรวมทั่วประเทศยังคงชะลอตัว การลงทุนภาคเอกชนใน เดือน พ.ค. 2558 ส่งสัญญาณชะลอตัวอยู่บ้าง โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือนพฤษภาคม 2558 หดตัวร้อยละ -11.3 ต่อปี นับเป็นการหดตัวครั้งในรอบ 5 เดือน

อย่างไรก็ดีปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์หดตัวที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 2.8 ต่อเดือน สำหรับการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -19.7 ต่อปี แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าพบว่าขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนที่ร้อยละ 2.1 ต่อเดือน ขณะที่ ปริมาณนำเข้าสินค้าทุน หดตัวที่ร้อยละ -5.3 ต่อปี โดยเมื่อหักสินค้าพิเศษเครื่องบิน เรือและรถไฟ พบว่า หดตัวเช่นกันอยู่ที่ร้อยละ -7.7 ต่อปี

ส่วนในสถานการณ์ด้านการคลังใน เดือน พ.ค. 2558 พบว่า การใช้จ่ายรัฐบาลเป็นแรงสนับสนุนสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนพฤษภาคมเบิกจ่ายได้จำนวน 176.8 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 14.6 ต่อปี แบ่งเป็นรายจ่ายลงทุนที่ขยายตัวร้อยละ 47.2 ต่อปี และรายจ่ายประจำที่ขยายตัวร้อยละ 10.9 ต่อปี สำหรับการจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนพฤษภาคม มีจำนวนทั้งสิ้น 224.8 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -19.3 ต่อปี ทั้งนี้ รัฐบาลขาดดุลงบประมาณในเดือนพฤษภาคม 2558 จำนวน -10.6 พันล้านบาท ด้านอุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าในเดือนพ.ค. 2558 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยมีมูลค่า 18.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -5.0 ต่อปี โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าในเดือนพฤษภาคมมาจากภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าหลักของไทยในปัจจุบันที่ยังชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาดโลก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าในหมวดเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ และอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว

ด้านตลาดส่งออกที่หดตัวลดลง ได้แก่ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป แอฟริกา และ อาเซียน-9 สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานได้รับแรงสนับสนุน สำคัญจากการขยายตัวในภาคการท่องเที่ยว โดยในเดือน พ.ค. 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในไทย 2.31 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 38.2 ต่อปี และขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 6.5 ต่อเดือน โดยนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีมาจากนักท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และมาเลเซีย เป็นหลัก ขณะที่ยุโรปยังคงหดตัว

นอกจากนี้ ข้อมูลเบื้องต้นช่วง 1-21 มิถุนายน 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในไทย 1.56 ล้านคน ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 53.6 ต่อปี สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศ ในขณะที่ ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือน พ.ค. 2558 ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -7.3 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 0.7 ต่อเดือน ตามการหดตัวของผลผลิตข้าวเปลือก ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นสำคัญ โดยเฉพาะผลผลิตข้าวเปลือกที่หดตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจากสถานการณ์ภัยแล้งเป็นสำคัญ

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค.2558 อยู่ที่ระดับ 85.4 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหาภัยแล้งที่กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศโดยเฉพาะภาคเกษตร ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราการว่างงานในเดือน พ.ค. 2558 (เบื้องต้น) อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 3.54 แสนคน ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน พ.ค.2558 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มาอยู่ที่ร้อยละ -1.3 ต่อปี จากการที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศอยู่ในระดับที่มั่นคงโดยทุนสำรองระหว่างประเทศ อยู่ในระดับสูงที่ 158.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.9 เท่า สามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้

 

ข้อมูลและรูปภาพ : http://www.thairath.co.th/content/508253

sendLINE

Comment