ในหลวง ร.9 ทรงงานตลอดเพราะห่วงราษฎร ในระหว่างประชวร แพทย์ศิริราชเผย

5.0K



 

ในหลวง ร.9 ทรงงานตลอดเพราะห่วงราษฎร ในระหว่างประชวร แพทย์ศิริราชเผย

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ขอประชาชนตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของ “ในหลวง” ด้วยการดำรงตนให้สอดคล้องกับพระบรมราโชวาท ที่จะช่วยให้ประเทศเจริญก้าวหน้า และเปลี่ยนความเศร้าโศกมาเป็นพลังให้คนไทยหันมารู้รักสามัคคี อย่างที่พระองค์ต้องการ เผย “ในหลวง” ทรงอดทนอย่างมากในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย และทรงห่วงประชาชนตลอดแม้ประชวร ห้องทรงงานอยู่ติดกับห้องคนไข้ ทั้งทรงมีพระราชดำรัสให้แพทย์อย่าดูถูกคนไข้


 

ที่ประทับของพระองค์ท่านชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ หลังจากนี้ไปจะทำอะไร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า สิ่งที่ศิริราชจะทำ แต่ต้องขออนุญาตกับทางสำนักพระราชวังก่อน คือ อยากจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน และอยากจะมีเหมือนกับห้องที่รวบรวมเรื่องราวที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานให้กับศิริราช เพราะพระองค์เสด็จฯมาประทับและทรงงานที่ศิริราชมากกว่า 20 ปีแล้ว อาจจะทำเป็นโครงการ จะจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ หรือเสมือนหนึ่งพิพิธภัณฑ์ จะต้องปรึกษากับสำนักพระราชวังก่อน
 


ที่มาภาพ : http://www.innnews.co.th/images/news/2015/22/614671-04.jpg

ในส่วนความรู้สึกของแพทย์ ที่เคยถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันท์ อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า ขณะที่ทรงพระประชวรและมีพระวรกายแข็งแรงขึ้นแล้ว พระองค์มักจะเสด็จลงจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มาทอดพระเนตรระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา และทอดพระเนตรพระบรมมหาราชวัง ทรงห่วงใยประชาชนในเรื่องน้ำท่วมเป็นอย่างยิ่ง ตอนนั้นมีตำแหน่งคณบดี ถวายรายงานตั้งแต่ 12 ส.ค. 54 ก่อนน้ำจะมาในเดือน ต.ค.54 แสดงให้เห็นถึงสายพระเนตรที่ยาวไกล ถวายรายงานทุกวัน ทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษร แม้ขณะลงลิฟต์มาพร้อมกับพระองค์ท่าน ก็ทรงถามระดับน้ำตลอดเวลา และจะต้องตอบได้ทุกครั้ง พระองค์ทรงงานตลอดเวลาแม้ว่าเพิ่งจะฟื้นจากพระอาการประชวร

อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ กล่าวว่า จำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่เกิดการฟ้องร้อง ทางการแพทย์มากมาย ตนและคณะแพทย์ 3-4 คนได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ พระองค์ ท่านมีรับสั่งว่า ขอให้ทุกคนอ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าไปดูถูกใคร พระราชกระแสนี้ ได้นำมามอบให้แพทย์ นักศึกษาแพทย์ แพทยสภา และบุคลากรทางการแพทย์ ทุกคนมีดี อย่าไปดูถูกใคร พระราชกระแสนี้ ได้นำมามอบให้แพทย์ นักศึกษาแพทย์ แพทยสภา และบุคลากรทางการแพทย์ ทุกคนมีดี อย่าไปดูถูกใคร หมายถึงว่า ต้องให้เกียรติกับทุกๆคน เพราะฉะนั้นไมตรีจิตจะเกิดขึ้น ความสัมพันธ์ก็จะดีขึ้น ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ ตอนที่รับตำแหน่งคณบดีคณะแพทย์ใหม่ๆ พระองค์ทรงรับสั่ง สองประโยคสั้นๆว่า ให้เป็นนักเรียนใหม่ ตั้งใจทำงาน คือต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในทุกๆเรื่อง เวลาเสด็จลงจากที่ประทับจะเห็นสายพระเนตร ที่มองประชาชนด้วยความอ่อนโยน การที่ประชาชนถวายกำลังใจ ทั้งถวายดอกไม้ เปล่งเสียงทรงพระเจริญก็ตาม ทรงได้ยินตลอด และมีพระพักตร์แจ่มใส เพราะผู้ป่วยทุกคนต้องการกำลังใจ


ที่มารูปภาพ : http://tnews.teenee.com/etc/135905.html

ศ.คลินิค นพ.ธีรวัฒน์ อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ กล่าวอีกว่า การทรงงานของพระองค์หลังจากเสวยพระกระยาหารเสร็จ จะเสด็จฯออกยังห้องทรงงาน ที่อยู่ด้านชั้น 16 ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทอดพระเนตรความเป็นไปของฝั่งพระนคร บางครั้งนำเสด็จขึ้นไปบนดาดฟ้า ให้ทอดพระเนตรสิ่งต่างๆ พยายามที่จะทำให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญมากที่สุด พระองค์ทอดพระเนตรเห็นการจราจรฝั่งธนบุรีที่ติดขัด เลยมีพระราชดำริจะ ช่วยเหลือประชาชนฝั่งธนบุรี ต้องนำแผนที่มาถวาย ทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาลศิริราช รวมทั้ง คำนวณว่ามีประชาชนผ่านโรงพยาบาลนี้เท่าใด โดยทำเป็นทีมงาน ทรงมีรับสั่งว่าจะแก้ไขปัญหาการจราจรโดยรอบศิริราชและฝั่งธนบุรีให้ จนทำให้เกิดถนนลอยฟ้า การขยายสะพานอรุณอมรินทร์ ถนนโลคัลโรดรอบศิริราช และจะมีโครงการรถไฟลอยฟ้ามาขึ้นที่หน้าสถาบันการแพทย์ศิริราช

ปวงไทยทั้งแผ่นดินยังโศกเศร้าอาดูร ถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระผู้ทรงดุจดั่งดวงแก้วล้ำค่า ที่เสด็จสู่สรวงสวรรค์ทิพยวิมานบนฟากฟ้าสุราลัยแล้ว โดยหลั่งไหลเดินทางมาแสดงความไว้อาลัยและสักการะพระบรมศพที่ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหา ราชวัง กันตลอดทั้งวันทั้งคืน บางส่วนเดินทางมารอถวายสักการะพระบรมศพและร่วมลงนามแสดงความอาลัยกันตั้งแต่ดึกวันที่ 18 ต.ค. ต่อเนื่องถึงเช้ามืดวันที่ 19 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่หกของพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นวันครบรอบวันสวรรคต ครบ 7 วัน เป็นการบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร

ขอบคุณเนื้อข่าวบางส่วนจาก : เว็บไซต์ ไทยรัฐ อ่านเพิ่มเติมคลิก


 

sendLINE

Comment