“SEAC” หนุนเรียนทุกช่วงวัย ทุ่ม 600 ล้าน พัฒนาแพลตฟอร์ม

SEAC ผลักดัน lifelong learning ecosystem ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศที่ต้องส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในทุกช่วงอายุ เดินหน้าใช้งบฯกว่า 600 ล้านบาทเพื่อพัฒนา 3 ด้าน ต่อกรกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุค disruption มั่นใจภายในสิ้นปี 2563 จะมีจำนวนลูกค้าที่สนใจมากกว่า 90,000 คน และมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงกว่า 100%

นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC (South East Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียนกล่าวว่า จุดมุ่งหมายในการทำงานของ SEAC คือการสนับสนุนให้สังคมไทยและสังคมอาเซียนเรียนรู้ และมี learning mindset ใหม่ ๆ เพื่อใช้จัดการชีวิตให้เหมาะสมกับยุคสมัย

สำหรับการลงทุนปีนี้ SEAC ใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณในการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ 4Line Learning งบประมาณการก่อสร้างศูนย์แห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต งบประมาณในการเฟ้นหา content ระดับโลกในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อรองรับความต้องการของทุกกลุ่มทุกวัย รวมถึงการแปลเนื้อหาเป็นภาษาไทยและบางภาษาในกลุ่มประเทศอาเซียน

“เราจะสร้างความแตกต่างจากที่เมื่อก่อนมีแพลตฟอร์มเรียนรู้สำหรับคนทำงานหรือผู้บริหารเท่านั้น แต่ปีนี้เราเดินหน้าสร้างหลักสูตรที่ครอบคลุมช่วงอายุ 11-65 ปี โดยแพลตฟอร์มจะประกอบไปด้วย 4 ทิศทาง หนึ่ง change the way people -พยายามทำให้คนเข้าใจความต่างของคำว่า study (ศึกษา) และ learning (เรียนรู้) โดยเราจะเน้นที่การเรียนรู้ เพราะสามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ตลอดทุกช่วงวัย สอง serve talent local education systems CAN”T – เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการศึกษาของไทย โดยเข้ามาเพิ่มเติมในสิ่งที่การศึกษาไทยกำลังจะไปถึง สาม develop new skills for a new world – เฟ้นหาหลักสูตรหรือการสร้างทักษะสำหรับยุคไทยแลนด์ 4.0 สี่ develop needed thinking & problem solving skills – ส่งเสริมให้คนไทยคิดเป็นและสามารถแก้ไขปัญหาได้”

ส่วนการดำเนินงานในปีนี้ SEAC จะยกระดับขอบเขตการดำเนินธุรกิจสู่การเป็นศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ความเชื่อที่ว่า มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในการพัฒนาชีวิตและการเรียนรู้ตลอดทุกช่วงชีวิต

นางอริญญาอธิบายต่อว่า โลกใบนี้กำลังเป็นโลกที่มีแต่สิ่งใหม่ ๆ ที่ส่งผลต่อค่านิยม ดังนั้น การเรียนรู้แบบเดิมที่เน้นการท่องจำ และจดเลกเชอร์ คงไม่สามารถตอบสนองการเรียนรู้ของคนและสังคมได้อีกต่อไป เพราะสิ่งที่ SEAC กำลังทำคือการทำกรอบระบบการเรียนรู้ใหม่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อสร้างระบบเรียนรู้ที่ทุกคนคลิกโดย YourNextU คือสิ่งแรกที่เรานำเสนอเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว

“YourNextU คือการเรียนรู้แบบ blended learning ที่ผู้เรียนสามารถเลือกวิธีการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความชื่นชอบ ความถนัด หรือความสนใจของตนเอง ที่ผสมผสานการเรียนรู้ 4 แบบ (4Line Learning) โดย SEAC ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ 4Line Learning เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตั้งเป้าหมายจำนวนคนที่จะเข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้ในประเทศไทยจำนวน 55,000 คน เวียดนามจำนวน 10,000 คน และเมียนมาน่าจะเริ่มต้นที่หลักพันก่อน”

4Line Learning ประกอบด้วย online ที่ให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงได้ไม่จำกัดครั้งและไม่จำกัดวิชา ด้วยค่าสมัครเพียง 10,000 บาท/คน/ปี โดยเรามีมากกว่า 100 หลักสูตรจากสถาบันการศึกษาชั้นนำที่ได้มาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้ ยังมี subtitles หลากหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย เวียดนาม เมียนมา และกำลังเร่งทำภาษาอินโดนีเซียให้เสร็จภายในปี 2563 โดยผู้เรียนแบบ online จะได้รับใบ certificate จากสถาบันเจ้าของหลักสูตร

ส่วน Inline คือการเรียนรู้แบบเข้าคลาสที่ SEAC ซึ่งเปิดเป็นประจำ 18 คอร์สต่อวันทุกวัน ยกเว้นวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยผู้เรียนสามารถตรวจสอบวิชาเรียนที่ต้องการและลงทะเบียนเข้าคลาสได้เองทาง www.yournextu.com

และแอปพลิเคชั่น YourNextU Beeline เป็น social learning สำหรับคนที่ไม่ชอบเรียนคนเดียว ชอบการเข้าสังคม โดยไลน์นี้เน้นการสัมมนากับผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย วิทยากรของ SEAC เอง ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ โดยจัดทุกวัน วันละ 1 ครั้ง และเมื่อจบการสัมมนาจะมีการอัพโหลดลงใน library พร้อมคำแปลภายใน 48 ชม. เพื่อให้สามารถเข้ามาดูย้อนหลังได้ นอกจากนี้ ยังมีคลาสในลักษณะ game & simulation หรือการจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ front line เป็นคลังบทเรียนที่มีทั้งแบบวิดีโอ แผ่นเอกสาร ให้ผู้เรียนสามารถดาวน์โหลดออกมา

นางอริญญากล่าวถึงยุทธศาสตร์ทางการตลาดว่า ปีนี้เดินหน้าแบบ personalized marketing ที่ให้ความสำคัญกับ data และการสร้าง learner persona เพื่อพัฒนาบริการหรือนำเสนอโปรแกรมหลักสูตรให้ตรงความต้องการและทันเกมยุค disrupted world มากที่สุด

“ระยะแรกเราเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับองค์กรทั้งภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการกระจายข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจและกระหายในการพัฒนาการเรียนรู้ได้เตรียมความพร้อม เพื่อเข้าร่วมการเรียนรู้กับ SEAC ในอนาคต

ผลการดำเนินงานของ SEAC ในปีที่ผ่านมามีคนเข้าร่วมเรียนรู้ในหลักสูตรหรือโปรแกรมต่าง ๆ รวมกว่า 30,000 คน และในปี 2562 คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมเรียนรู้มากขึ้น 3 เท่า และมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงกว่า 100%

เพราะ SEAC คาดหวังให้คนไทยมีโอกาส และมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น และนับเป็นการช่วยภาครัฐในการผลักดันสังคม 4.0 พร้อมกับช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงการเรียนรู้ให้คนไทยไม่น้อยกว่าประเทศหรือภูมิภาคอื่น ๆ