เปิดประเทศกู้ชีพจรเศรษฐกิจ 6 เมืองท่องเที่ยวเฮ-ทะลักภูเก็ต
โรดแมปเปิดประเทศมกราคม 65 ศบศ.ไฟเขียวรับนักท่องเที่ยว-ต่างชาติไม่ต้องกักตัว นำร่องภูเก็ต 1 ก.ค. 64 เมืองท่องเที่ยว “กระบี่ พังงา สมุย พัทยา เชียงใหม่” เลิกกักตัวไตรมาส 4 คาดทะลักภูเก็ตแสนคน ธุรกิจท่องเที่ยวประสานเสียง โรงแรมภูเก็ตเปิด 2 หมื่นห้องรอ รัฐตีปีกปฏิบัติการเชิงรุกดีลนักลงทุนเป้าหมายแบบตัวต่อตัว เน้นลงทุนจริง เลขาฯสภาพัฒน์ย้ำอัดงบฯลงทุน 80% สปีดจ่ายเงินทุกมาตรการ ปั้นเป้าจีดีพีโต 4%
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบศ. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบในแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส สามารถเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตได้โดยตรงผ่านเครื่องบิน และสามารถท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564
ทั้งนี้ มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หารือในรายละเอียดร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและนำกลับมาพิจารณาใน ศบศ. ภายใน 1 เดือน
โรดแมปเปิดประเทศต้นปี’65
โดย ศบศ.รับทราบเรายงานโรดแมป การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีนแล้ว ตั้งแต่ไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย. 64) พื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ภูเก็ต กระบี่ พังงาน เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ ให้มีการกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน
ในไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย. 64) ที่จังหวัดภูเก็ต จะไม่มีการกักตัว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดส และบินตรงเข้าภูเก็ต ตรวจเชื้อเมื่อเดินทางมาถึง โดยไม่ต้องกักตัวและต้องอยู่ในภูเก็ตอย่างน้อย 7 วัน ก่อนออกเดินทางไปที่อื่น ๆ และใช้มาตรการป้องกันควบคู่กับ vaccine certificate และแอปพลิเคชั่นติดตามตัว
ไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค. 64) เพิ่มพื้นที่นำร่อง ภูเก็ต กระบี่ พังงาน เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ คาดว่าเดือนมกราคม 2565 จะสามารถเปิดประเทศได้
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า หากเปิดรับนักท่องเที่ยวเร็วขึ้นจะทำให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวเร็วขึ้น โดยต้องประเมินจากพื้นที่แซนด์บอกซ์ ตั้งแต่เมษายนเป็นต้นไป ซึ่งจำนวนตัวเลขประมาณการนักท่องเที่ยว 6.5 ล้านคน เป็นกลุ่มรายได้สูงและมีคุณภาพเข้ามาจะมีผลต่อตัวเลขจีดีพีอย่างมีนัยสำคัญ
“เป้าหมายจีดีพีโต 4% เป็นเป้าหมายที่ท้าทาย ซึ่งจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลต่อการส่งออกและการลงทุน และถ้าสามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนภายในประเทศไทยได้เร็ว จีดีพีก็อาจจะได้ถึง 4%”
เป้าหมายเศรษฐกิจปี’64 เดิม สศช.ประมาณการจีดีพีเฉลี่ย 3% ถ้าต้องการผลักดันให้โต 4% การส่งออกต้องขยายตัว 8% ต้องอาศัยโอกาสเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และแก้ไขอุปสรรค เช่น ตู้สินค้า ขั้นตอนศุลกากร ขยายตลาดใหม่ การเบิกจ่ายงบประมาณ
โดยเฉพาะงบฯลงทุนภาครัฐต้องได้อย่างน้อย 80% ขึ้นไป การลงทุนภาคเอกชนต้องเร่งรัดที่ได้สิทธิประโยชน์บีโอไอ แล้วต้องลงทุนจริงอยู่ในระดับ 4.3% การบริโภคภาคเอกชนภายใต้มาตรการกระตุ้นการบริโภค เช่น เราชนะ ม.33 เรารักกัน และการท่องเที่ยวต้องอยู่ในระดับ 2.2%
สำหรับแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดการประกอบธุรกิจและดึงดูดการลงทุน ภายใต้ทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศรายใหญ่ให้เข้ามาลงทุนภายในประเทศ โดยอุตสาหกรรมหลักที่จะดึงเข้ามาในช่วงต่อจากนี้ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 2.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 3.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพ และ 4.อุตสาหกรรมดิจิทัล คลาวด์
ทั้งนี้ ในระยะแรกจะดึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพเข้ามาลำดับแรก โดยจะมีการแก้ไขกฎระเบียบ เช่น เวิร์กเพอร์มิส ตรวจคนเข้าเมือง โดยทีมปฏิบัติการเชิงรุกจะจัดทำในรายละเอียดเสนอ ศบศ. ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้
เปิดรับนักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า สืบเนื่องจากมติที่ประชุม ศบค.เรื่องแผนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้กำหนดให้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2564 (1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป) นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาในบางพื้นที่ได้ โดยไม่ต้องกักตัว จึงทดลอง (แซนด์บอกซ์) ไม่ต้องกักตัวในบางพื้นที่ก่อน
สำหรับจังหวัดที่มีความพร้อมและเป็นพื้นที่ปิด หรือเป็นเกาะ คือ ภูเก็ต หรือภูเก็ตแซนด์บอกซ์ โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 (1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป) แต่พื้นที่อื่น ได้แก่ กระบี่ พังงา สมุย พัทยาและเชียงใหม่ ยังต้องกักตัว 7 วัน
“เราจะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนแล้วในไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) บางพื้นที่ก่อน คือ พื้นที่หลักที่พึ่งพานักท่องเที่ยวสูง ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยาและเชียงใหม่ ต้องกักตัวในบริเวณโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน (0+7) แต่ไม่ต้องกักตัวในห้องพัก โดยกำหนดเป็นพื้นที่ zeal area เพื่อท่องเที่ยวในพื้นที่ที่กำหนดภายนอกโรงแรมได้ และไตรมาส 4 พื้นที่นำร่องทั้งหมด (กระบี่ พังงา สมุย พัทยาและเชียงใหม่) ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีมาตรการป้องกันควบคู่ไปด้วยเช่น การติดตามด้วยแอปพลิเคชั่นไทยแลนด์พลัส”
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนทั่วโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 468 ล้านโดส จาก 135 ประเทศ 11.3 ล้านโดสต่อวัน และมีการจองวัคซีนไปแล้ว 9,600 ล้านโดส แสดงให้เห็นว่ามีผู้ได้รับวัคซีนแล้วและพร้อมเดินทาง สอดคล้องกับผลสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติของ ททท. ภายหลังได้รับวัคซีน จำนวน 17,000 ตัวอย่าง ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน 4,518 ราย
ปรากฏว่า ตลาดระยะไกล (ระยะเวลาในการบินมากกว่า 6 ชั่วโมง) เช่น เยอรมนี ประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย อังกฤษ รัสเซีย สหรัฐ ยูเออี และอิสราเอล รวมถึงตลาดระยะใกล้ เช่น จีน อินเดีย อาเซียน ฮ่องกง เกาหลี ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1
โดยมีจังหวัดยอดนิยม คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ หัวหิน ความเห็นของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาพักผ่อนจะเลือกพื้นที่ที่ฉีดวัคซีนแล้วและไม่มีการกักตัวและต้องการมาประเทศไทยในปี 2564 มากกว่าในปี 2565
นายดนุชากล่าวเสริมว่า แผนการฉีดวัคซีนตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นไป หน่วยงานของรัฐจะฉีดเดือนละ 10 ล้านโดสต่อเดือน ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนพร้อมที่จะเข้ามาช่วยในการกระจายวัคซีนด้วยเช่นกัน
คาด Q3 ทะลักภูเก็ตแสนคน
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า จากการประมาณการตัวเลขร่วมกับจังหวัดภูเก็ต คาดว่าในไตรมาส 3 (1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 1 แสนคน เป็นเป้าหมายที่ท้าทาย ซึ่งความชัดเจนจากมติ ศบศ.ในวันนี้ จะทำให้ 29 สำนักงาน ททท.นำไปดำเนินการด้านการตลาดได้เพื่อดึงดูดการนักท่องเที่ยวต่อไป
นอกจากนี้ ภูเก็ตจะจัดทำรายละเอียดเพื่อปรับปรุงจังหวัดให้เป็น new Phuket เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพที่จะเข้ามา เป็นนิมิตรหมายที่ดีในการเปิดรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังเป็นการบริหารความเสี่ยงในช่วงเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่แซนด์บอกซ์ก่อนถึงไตรมาส 4
“สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่จะนำเข้ามาในไตรมาส 3 คือ ตลาดระยะไกล เพราะตรงกับช่วงเวลาเดินทาง ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศยุโรปเป็นส่วนใหญ่ เช่น อังกฤษ สแกนดิเนียเวีย เยอรมนี รัสเซีย ยูเออี อิสราเอล รวมถึงสหรัฐ”
นายดนุชากล่าวว่า หลักการสำคัญในการเปิดพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งต้องดูความพร้อมของการฉีดวัคซีนของประชาชนในพื้นที่ด้วย ซึ่งความเป็นไปได้ในขณะนี้ตั้งแต่ช่วงเมษายนที่ต้องกักตัว 7 วัน เริ่มได้แห่งแรกที่ภูเก็ต โดยหลังจากนี้จะทยอยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ zeal area ก่อน จากนั้นจะฉีดวัคซีนลอตใหญ่ในภูเก็ตในช่วงมิถุนายนเป็นต้นไปถึงจะเริ่มเปิดแบบไม่กักตัว
ท่องเที่ยวพร้อมเดินแผนรุก
นายวิชิต ประกอบโกศล อดีตนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) หรือสมาคมทัวร์อินบาวนด์ ผู้ขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวมาต่อเนื่อง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ข้อสรุปดังกล่าวถือเป็นข่าวดีของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และเป็นไปตามที่เอกชนหลายเซ็กเตอร์เรียกร้องไปก่อนหน้านี้ ที่สำคัญยังช่วยทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวสามารถวางแผนการทำการตลาด
“ก่อนหน้านี้สมาคมได้ทำจดหมายถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอีกหลาย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้พิจารณาทยอยเปิดรับต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วในเดือนมิถุนายน ในเมืองท่องเที่ยวที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนในอัตราที่ราว 70% ตามแผนการทยอยฉีดวัคซีนของกระทรวงท่องเที่ยวฯ หากสามารถดำเนินการตามแผนนี้น่าจะทำให้ปีนี้ประเทศไทยน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ถึงราว 8 ล้านคน และสร้างรายได้ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท” นายวิชิตกล่าว
หวั่นระดมฉีดวัคซีนไม่ทัน ก.ค.
แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วโดยไม่ทำการกักตัวได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากตัวแปรสำคัญของการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวคือ จำนวนคนไทยในพื้นที่นั้นต้องได้รับการฉีดวัคซีนในสัดส่วนที่มต่ำกว่า 70% ของประชากรด้วย
“ตอนนี้เรายังไม่เห็นแผนการกระจายหรือจำนวนวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขให้กับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และจังหวัดท่องเที่ยวที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ยาก ว่าภูเก็ตจะสามารถระดมการฉีดวัคซีนได้ครบทั้ง 9 แสนโดส ในช่วงเวลาแค่ 3 เดือน เพื่อให้ทันกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้” แหล่งข่าวกล่าว
เอกชนเปิดรับต่างชาติ 1 ก.ค.นี้
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า การที่ ศบศ.อนุมัติให้ภูเก็ตเริ่มรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ นับเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่คาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาน้อย เนื่องจากหลายประเทศยังไม่ให้คนเดินทางออก จึงขอให้กระทรวงต่างประเทศเร่งดำเนินการแทรเวลบับเบิลกับประเทศทีมีความเสี่ยงต่ำเข้ามาภูเก็ต ขณะเดียวกัน หลายประเทศยังไม่ให้คนออกนอกประเทศอาทิ จีน ออสเตรเลีย
“ในส่วนโรงแรมที่เปิดบริการในภูเก็ตตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 มีจำนวน 1-2 หมื่นห้อง เพียงพอรองรับตลาดคนไทยและตลาดต่างประเทศ โดยในช่วง 1 ต.ค.นี้โรงแรมจะทยอยเปิดให้บริการกันมากขึ้น แต่ยังมีอุปสรรคเรื่องสภาพคล่องของธุรกิจที่ต้องรีโนเวตก่อนเปิดรับลูกค้า ทางภาคเอกชนได้ขอซอฟต์โลนไปแล้วรัฐต้องช่วยในส่วนนี้ด้วย”
ลายแทงดูดนักลงทุนไทย-เทศ
ที่ประชุมยังรับทราบแนวทางเพื่ออำนวยความสะดวกการประกอบธุรกิจและดึงนักลงทุนและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เกษียณอายุและผู้รับเงินบำนาญที่มีรายได้สูงจากทั่วโลก 5 กลุ่มได้แก่ ผู้เกษียณอายุที่มีรายได้สูง ผู้รับเงินบำนาญที่มีรายได้สูง กลุ่มคนทำงานแบบไร้ออฟฟิศ สตาร์ตอัพ และสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค
พร้อมแนวทางการลดข้อจำกัดและปัญหาอุปสรรคที่สำคัญ ประกอบด้วย การขอวีซ่าและทำงานของคนต่างด้าว อุปสรรคภาษี อาทิ การไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่คนเกษียณอายุและคนที่ไม่มีนายจ้าง และ startup และการกำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขรับสิทธิประโยชน์สำหรับ regional hub ซับซ้อนและยากในการปฏิบัติ
นอกจากนี้การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อาทิ การให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการขออนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) การขออนุญาตที่มีขั้นตอนยุ่งยาก ใช้เวลานานและไม่มีเกณฑ์การพิจารณาที่ชัดเจน
รวมทั้งธุรกิจกลุ่มศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ และศูนย์บริหารเงิน ที่ต้องขอรับอนุญาตจากหลายหน่วยงาน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และกรมสรรพากร
และการถือครองอสังหาริมทรัพย์ อาทิ คนต่างด้าวไม่สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน รวมถึงกรณีที่ดินและบ้านจัดสรร คนต่างด้าวมีข้อจำกัดสัดส่วนการถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด และการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (leasehold) สามารถทำได้เพียง 30 ปี ทำให้ไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยระยะยาว โดยทีมปฏิบัติการเชิงรุกได้นำเสนอแนวทางการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีที่จะช่วยให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาอยู่อาศัยได้ตามเป้าหมาย
ข้อมูล : prachachat.net
Thaipur talk : ยู.พี.อี. เอ็นจิเนียริ่ง บจก. ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องอัดอากาศ, เครื่องปั๊มลม, เครื่องทำลมแห้ง, ที่กรองลม เครื่องทำลมแห้งแบบใช้สารดูดความชื้น, บู๊ทเตอร์ปั๊ม (Booster), ออโต้เดรนไฟฟ้า, เครื่องผลิตไนโตรเจน (Nitrogen Generator), เครื่องกำจัดน้ำมันในระบบ ผลิตภัณฑ์ Air Compressor, Air Dryer, Compressed Air Filter
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE Thaipurchasing

Comment
New!

สถาปนิก 68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

หากท่านอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ไม่ควรพลาดงานนี้ !! งาน Thailand Oil & Gas Roadshow 2024

สถาปนิก’68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างชั้นนำกว่า 600 บริษัท ตบเท้าร่วมงานสถาปนิก’67 พร้อมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ
Popular

ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย

การส่งกำลังโดยใช้สายพาน

ประเภทสกรูและน็อต อุตสาหกรรม