การใช้หม้อไอน้ำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน
การใช้หม้อไอน้ำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน
การใช้หม้อไอน้ำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน มีวิธีการดังนี้ 1. ดำเนินการตรวจทดสอบความปลอดภัยในการใช้หม้อไอน้ำเป็นประจำทุกปี และจัดส่งเอกสารรับรองความปลอดภัยในการใช้หม้อไอน้ำต้นฉบับไปให้แก่สำนักเทคโนโลยีความปลอดภัย กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อพิจารณาตามกำหนด สำหรับท่านผู้ประกอบการที่ใช้หม้อไอน้ำหลายเครื่องในโรงงานเดียวกัน และมีเครื่องใดที่มีขนาดกำลังการผลิตไอน้ำ ตั้งแต่ 20 ตัน/ชั่วโมงขึ้นไป จะขอความเห็นชอบจากท่านอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อขยายการตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้หม้อไอน้ำ จาก 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี/ครั้ง ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 26(พ.ศ.2534)ก็ได้ 2. มีการขึ้นทะเบียนผู้ควบคุมหม้อไอน้ำต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ผู้ควบคุมไอน้ำต้องมีคุณสมบัติ คือต้องจบ ปวช. ช่างยนต์ ช่างกลโรงงาน หรือช่างผู้เชี่ยวชาญงานที่ผ่านการอบรมหลักสูตร ผู้ควบคุมหม้อไอน้ำที่ต้องขึ้นทะเบียน/หนึ่งโรงงานนั้น ในประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้กำหนดไว้ แต่ขอเสนอแนะว่า - ถ้ามีการใช้หม้อไอน้ำในการทำงาน 1 กะ ควรให้ขึ้นทะเบียนอย่างน้อย 1 คน
คำเตือน : ถ้าท่านผู้ประกอบกิจการต้องใช้หม้อไอน้ำถึง 3 กะ หรือตลอด 24 ชั่วโมง แล้วแต่ท่านผู้ประกอบกิจการไปขึ้นทะเบียนผู้ควบคุมหม้อไอน้ำเพียงคนเดียว ท่านคิดหรือไม่ว่า กะที่2 และกะที่3 ใครจะเป็นผู้ควบคุมหม้อไอน้ำ หรือท่านจะปล่อยปะละเลยให้มีการใช้หม้อไอน้ำ โดยไม่มีผู้ควบคุมหม้อไอน้ำอย่างนั้นหรือ สำหรับกรณีดังกล่าวนี้ ถือได้ว่าท่านกำลังเสี่ยงต่ออันตรายจากหม้อไอน้ำจนเกินไป 3. ควรมีการขึ้นทะเบียนวิศวกรรมควบคุมและอำนวยการใช้หม้อไอน้ำ หากมีการใช้หม้อไอน้ำที่มีขนาดกำลังการผลิตไอน้ำตั้งแต่ 20 ตัน/ชั่วโมง/1 เครื่องขึ้นไป 4. หม้อไอน้ำที่ใช้งานและยังไม่มีการรั่วซึม ไม่ผุกร่อน ไม่ชำรุดทรุดโทรม ควรบำรุงรักษาอยู่เสมอ 5. ควรมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำ สำหับเติมเข้าหม้อไอน้ำให้เหมาะสม ซึ่งเป็นการป้องกันมิให้เกิดตะกรัน การผุกร่อน และความเสียหายอื่นๆภายในหม้อไอน้ำอย่างสม่ำเสมอ 6. ควรมีการนำน้ำคอนเดนเสท (condensate) กลับมาเติมเข้าหม้อไอน้ำใหม่ เนื่องจากน้ำคอนเดนเสทยังมีปริมาณความร้อนอยู่มาก นั่นก็หมายถึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งในบางโรงงานอุตสาหกรรมก็ปล่อยน้ำคอนเดนเสททิ้งไปเปล่าก็มีมากมาย คำแนะนำ น้ำที่ใช้เติมเข้าหม้อไอน้ำหรือที่เราเรียกกันว่า น้ำเลี้ยงหม้อไอน้ำ (feed water boiler) ถ้าอุณหภูมิของน้ำเพิ่มจากเดิมทุก ๆ 6 องศาเซลเซียล เราจะสามารถลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงได้ถึง 1 % อีกทั้งยังสามารถลดปริมาณการใช้น้ำดิบและสารเคมีที่ต้องทำการปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพื่อใช้สำหรับเติมเข้าหม้อไอน้ำอีกด้วย 7. การปรับแต่งหัวเผา (burner) ให้สังเกตสีของเปลวไฟในห้องเผาไหม้หรือมีการปรับปริมาณลมที่ใช้ในการเผาไหม้ กรณีที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งให้มีความเหมาะสม เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ 8. ควรหุ้มฉนวนตัวหม้อไอน้ำ วาล์วต่าง ๆ ท่อจ่ายไอน้ำ ตลอดจน อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ไอน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียความร้อนเป็นอย่างดีเหล่านี้ ท่านผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมจะเห็นได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ยุ่งยากนัก โดยที่ท่านควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักการเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย และประหยัดพลังงาน รวมถึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่งที่ดี เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ท่านไม่ควรจะเสียไปนั่นเอง
|

Comment
New!

สถาปนิก 68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

หากท่านอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ไม่ควรพลาดงานนี้ !! งาน Thailand Oil & Gas Roadshow 2024

สถาปนิก’68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างชั้นนำกว่า 600 บริษัท ตบเท้าร่วมงานสถาปนิก’67 พร้อมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ
Popular

ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย

การส่งกำลังโดยใช้สายพาน

ประเภทสกรูและน็อต อุตสาหกรรม