7 ร้านอร่อยเด็ด กับ 7 ท่าน้ำริมฝั่งเจ้าพระยา

การเดินทางด้วยรถส่วนตัวและรถประจำทางในกรุงเทพฯ ที่มีสภาวะของการจราจรคับคั่ง ก็ทำเอาคนกรุงต้องหาวิธีการเดินทางในแบบอื่น ๆ ซึ่งหนึ่งในการเดินทางที่ดีที่สุดก็คือการนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา เพราะนอกจากผู้โดยสารจะไม่ต้องหงุดหงิดกับรถติดแล้ว ยังรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงเช้าและยามเย็นจะมีทัศนียภาพที่งดงามมาก ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมขอพาไปลัดเลาะหาของกินอร่อย ๆ ตามร้านอาหารบริเวณท่าเรือต่าง ๆ จะมีที่ไหนบ้าง...ตามไปชม ตามไปชิมกันเลย

1. ร้านเจ้ตุ๊ก ข้าวต้มสุโขทัย ท่าน้ำนนท์

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ้ตุ๊ก ข้าวต้มสุโขทัย

        เดินขึ้นมาจากท่าน้ำนนท์ไม่ไกลนัก ก็จะพบกับร้านข้าวต้มชื่อดังของจังหวัดนนทบุรี ที่พร้อมเสิร์ฟข้ามต้มกลิ่นหอมหวน รสชาติกลมกล่อม พร้อมกับเมนูกับแกล้มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นยำไข่เค็ม, ยำสามกรอบ, ผัดผักรวมมิตร, ต้มยำรวมมิตร, เต้าหู้ไข่กับต้นกุยช่ายอ่อนผัด, แกงส้มปลาช่อนทอดกรอบ, ยำไข่เยี่ยวม้า, ผัดฉ่าทะเล หรือหมูมะนาว ฯลฯ ซึ่งทางร้านจะใช้วัตถุดิบสดใหม่ ปรุงรสอย่างพิถีพิถัน จึงทำให้มีรสชาติที่อร่อยจนต้องติดใจ
 
        พิกัดร้าน : 2/19 หมู่ 4 ถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-04.00 น.
        โทรศัพท์ : 0 2967 2036
        เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก เจ้ตุ๊ก ข้าวต้มสุโขทัย (https://www.facebook.com/pages/เจ้ตุ๊ก-ข้าวต้มสุโขทัย/420973507944980?sk=timeline)

2. ร้าน Steve Cafe and Cuisine ท่าน้ำเทเวศร์

ภาพจาก www.stevecafeandcuisine.com

        Steve Cafe and Cuisine เป็นร้านอาหารไทยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลูกค้าสามารถชมบรรยากาศวิถีชีวิตที่เงียบสงบของชาวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และภาพความสวยงามของสะพานกรุงธนในยามค่ำคืน พร้อมทั้งลิ้มรสอาหารไทยแท้ดั้งเดิมที่มีรสชาติจัดจ้าน หอม อร่อย กลมกล่อม เมนูที่แนะนำ เช่น ยำส้มโอ, แกงไตปลา, เมี่ยงคำ, กุ้งผัดสะตอ, กุ้งแช่น้ำปลา, คั่วกลิ้ง, ยำถั่วพู ฯลฯ ซึ่งแต่ละเมนูต้องบอกว่าเด็ดจริง ๆ ต้องลิ้มลอง
 
        พิกัดร้าน : 68 ถนนศรีอยุธยา ซอยศรีอยุธยา 21 (เทเวศร์) แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต (ถ้ามาทางเรือ ต้องขึ้นเรือที่ท่าเรือด่วนเทเวศร์ และเดินตรงมาทางถนนใหญ่ประมาณ 100 เมตร จากท่าเรือ แล้วจะเห็นสะพานข้ามคลองเล็กทางซ้ายมือ ให้ข้ามสะพานมาแล้วเดินมาตามทางเล็ก ๆ เรียบคลองมาเรื่อยจนทะลุถึงวัดเทวราชกุญชร แล้วเดินมาที่ท่าเรือของวัดก็จะเจอร้าน)
        เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. และ 16.30-23.00 น., เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30-23.00 น.
        โทรศัพท์ : 0 2281 0915, 0 2280 2989
        เว็บไซต์ : http://www.stevecafeandcuisine.com/index-th.html

3. ร้านครัวคุณกุ้ง ราชนาวีสโมสร ท่าช้าง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ครัวคุณกุ้ง

        อีกหนึ่งร้านอาหารระดับตำนานที่มีหลายสาขา เพราะความอร่อยของอาหารทำให้ครัวแม่กุ้งเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และได้ขยายสาขามายังฝั่งธนบุรี โดยร้านจะตั้งอยู่ภายในราชนาวีสโมสร บริเวณท่าเรือท่าช้าง บรรยากาศผ่อนคลายจากสายน้ำ และภาพวัดวาอารามที่สวยงามทั้งวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารและวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร อาหารที่ขึ้นชื่อ เช่น ผัดฉ่าทะเล, เป็ดอบยอดผัก, ห่อหมกลูกมะพร้าว, ปลาทับทิมนึ่งมะนาว, ขาหมูน้ำแดง, ยำสามกรอบ, สลัดผลไม้กุ้งทอด, กุ้งอบวุ้นเส้น, ปลาช่อนลุยสวน, ปลากะพงทอดน้ำปลา, ผัดหมี่ฮ่องกง, ข้าวห่อใบบัว, ไก่ตุ๋นเยื่อไผ่, ขาหมูทอด ฯลฯ ตามด้วยของหวานอย่างเงาะสอดไส้, เต้าทึงเย็น, บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น เรื่องความอร่อยไม่ต้องห่วง เพราะได้รับการการันตีจากนักชิมระดับประเทศมากมาย
 
        พิกัดร้าน : อาคารราชนาวีสโมสร 77 ถนนมหาราช เขตพระนคร
        เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น.
        โทรศัพท์ : 0 2222 0081
        เว็บไซต์ : http://www.kruakhunkung.com/contact.html

4. ร้านแอ๊ว ท่าพระจันท์ ท่าเรือท่าพระจันทร์

        เป็นร้านอาหารขวัญใจเด็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยตั้งอยู่ริมน้ำ บรรยากาศเย็นสบาย สามารถพาเพื่อนมาทานอาหารกันได้อย่างเต็มที่ และยังมีเมนูอาหารจานเดียวที่หลากหลาย พร้อมทั้งรสชาติที่อร่อยจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่, ปูนิ่มทอดกระเทียม, ยำวุ้นเส้น, ส้มตำทอด, สปาเกตตีทะเล, สปาเกตตีผัดขี้เมา, ผักมักกะโรนี, ผักโขมอบชีส เป็นต้น ราคาไม่แพง เพราะเน้นขายให้กับนักศึกษาและคนทำงาน
 
        พิกัดร้าน : ริมน้ำท่าพระจันทร์ ถนนมหาราช เขตพระนคร
        เวลาเปิด-ปิด : 08.00-19.00 น.
        โทรศัพท์ : 0 2222 6472

5. ร้านเสวย ท่าเรือมหาราช

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Savoey restaurant

        นอกจากท่ามหาราชจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคแห่งใหม่สำหรับชาวกรุงแล้ว บริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารสุดอร่อยอย่างร้านเสวยอีกด้วย นอกจากจะมีบรรยากาศอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นตัวชูโรงแล้ว รสชาติอาหารยังไม่น้อยหน้าร้านดังอื่น ๆ ร้านอาหารแห่งนี้สร้างความสุขในการทานอาหารให้กับชาวพระนครมานานมากกว่า 40 ปี ด้วยรสชาติอาหารไทยต้นตำรับ มีเอกลักษณ์ในทุก ๆ จาน อาหารแนะนำ เช่น ผัดไทยเส้นจันท์, เปาะเปี๊ยะเสวย, แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย, ข้าวคลุกน้ำพริกลงเรือ, หมี่กรอบ เป็นต้น
 
        พิกัดร้าน : ชั้น 2 ตึก G ท่ามหาราช
        เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น.
        โทรศัพท์ : 0 2024 1317
        เว็บไซต์ : http://www.savoey.co.th/

6. ร้านอรทัยซูชิ ท่าเรือวังหลัง

        จากร้านซูชิคำเล็กราคาชิ้นละ 5 บาท สู่การเป็นร้านซูชิเจ้าดังที่ใครมาวังหลังจะต้องมาลิ้มลอง ซึ่งมีซูชิมากกว่า 10 แบบ ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็ใส่ไส้ แต่งหน้ามาแบบจัดเต็ม คุ้มราคามาก ๆ อีกทั้งทาโกะยากิ เนื้อแป้งนุ่ม ไส้แน่น ๆ กัดเข้าไปหนึ่งคำจะรู้เลยว่าคำว่าฟินเป็นอย่างไร บรรยากาศภายในร้านยังโปร่งโล่ง สบาย ไม่คับแคบมากจนเกินไป สามารถนั่งทานได้ทั้งชั้นล่างและชั้นบน
 
        พิกัดร้าน : 102 ซอยวังหลัง ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
        เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น.
        โทรศัพท์ : 0 2866 8828

7. The Never Ending Summer ท่าเรือคลองสาน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Never Ending Summer

        ใครจะไปคิดว่าร้านอาหารที่มีบรรยากาศแบบฮิปสเตอร์เช่นนี้จะเสิร์ฟอาหารไทยแท้ ที่มีรสชาติถึงพริกถึงขิง เมนูอาหารที่น่าสนใจ เช่น แกงส้มกุ้งกุลาดำ, แกงระแวง, ยำถั่วพู, ชุดน้ำพริกกะปิ, ยำหัวปลีทอดกรอบกับกุ้งสด, ทอดมันไข่เค็ม, ไก่ย่างสมุนไพร, คอหมูคุโรบูตะย่าง เป็นต้น โดยทุกเมนูจะคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีและสดใหม่ ตำเครื่องแกงอย่างพิถีพิถัน ปรุงรสให้อร่อยละมุนละไมใกล้เคียงกับรสชาติอาหารไทยดั้งเดิมให้มากที่สุด พร้อมเสิร์ฟกับเครื่องดื่มหลากหลายประเภท
 
        พิกัดร้าน : โครงการ The Jam Factory เลขที่ 41/5 ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน
        เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และเวลา 17.00-23.00 น., วันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.
        โทรศัพท์ : 0 2861 0953-4
         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Never Ending Summer (https://www.facebook.com/TheNeverEndingSummer/timeline)

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง

ข้อมูลและรูปภาพ : http://travel.kapook.com/view124575.html