เจาะหุ้นเด็ด ดอกเบี้ยขาลง ‘ตัวไหนได้ ตัวไหนเสีย’ อยากรู้คลิกเลย!

2.5K



เจาะหุ้นเด็ด ดอกเบี้ยขาลง ‘ตัวไหนได้ ตัวไหนเสีย’ อยากรู้คลิกเลย!

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.mediainsight.in.th

บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในวันที่ (30 เม.ย.) ว่า วานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.5% ด้วยมติ 5 ต่อ 2 เสียง นับว่า ดีกว่าตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยฯ ที่เดิม หลังจากประกาศลดไปแล้ว 0.25% เมื่อ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าคาด ทำให้สำนักงานวิจัยต่างๆ มีแนวโน้มปรับลดประมาณการ GDP Growth โดยล่าสุด ASP ได้ปรับลดลงไปแล้วเหลือ 2.5% ขณะที่ผลการสำรวจของ กรุงเทพโพลล์ล่าสุด ได้สรุปความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะตกท้องช้าง หรือภาวะถดถอย เนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมีเพียงภาคท่องเที่ยงและการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของรัฐเท่านั้น และยังคาดหมายว่าในระยะ 3 เดือนข้างหน้าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะถดถอย (Recession)

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการลดดอกเบี้ยฯในครั้งนี้ น่าจะสร้าง sentiment เชิงบวกให้กับตลาดบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มลิสซิ่งที่มีต้นทุนดอกเบี้ยลอยตัว หรือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าน่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องของ Sentiment เป็นหลัก ดังนี้

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.bigkeyphuket.com

กลุ่มแรกคือ กลุ่มลิสซิ่ง นักวิเคราะห์ ASP ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง 25bp จะทำให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 ของ กลุ่มฯเพิ่มขึ้น 0.78% โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีต้นทุนการกู้ยืม (ภาระหนี้สิน) เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ส่งผลให้ส่วนที่เป็นฐานต้นทุนลดลง เทียบกับรายรับด้านการปล่อยสินเชื่อ (รายได้ดอกเบี้ย) ซึ่งมีสัดส่วนที่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ในปริมาณสูง รายได้จึงไม่ได้ลดตามดอกเบี้ยที่ปรับลดลง โดย ASK (FV@B31.10) น่าจะได้ประโยชน์สูงสุด ขณะที่มีจุดเด่นคือ มีค่า PER ต่ำเพียง 8 เท่า แต่คาดหวัง Div.Yield ได้สูงมากถึง 8%

ขอบคุณรูปภาพจาก http://prrealestates.blogspot.com/2012/03/2555.html

ตามด้วย กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แม้เชื่อว่าจะไม่ได้กระตุ้นกำลังซื้อโดยตรงก็ตาม แต่คาดว่าภาพอุตสาหกรรมโดยรวมน่าจะได้รับ sentiment เชิงบวก กล่าวคือ ผู้พัฒนาบ้านขาย สามารถรับรู้ได้ตามแผนหรือเร็วกว่าคาด เนื่องจากดอกเบี้ยต่ำจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจการโอนกรรมสิทธิ์เร็วขึ้น หรือทำได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันสถาบันการเงินจะมีอัตราการปฎิเสธสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่ อาศัยลดลง และดอกเบี้ยที่ลดลง คาดว่าจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายโดยรวมลง จากการศึกษาพบว่า ดอกเบี้ยที่ลดลง 0.25% น่าจะทำให้รายการดอกเบี้ยจ่ายในงบกำไรขาดทุนของผู้พัฒนาบ้านขายหายไป 139 ล้านบาท คิดเป็น 0.35% ของประมาณการกำไรปี 2558 หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ชื่นชอบ ซึ่งมีฐานลูกค้าระดับกลางและล่าง คือ SPALI (FV@B31.96) มีค่า PER ต่ำเพียง 6.3 เท่า แต่คาดหวัง Div.Yield ได้สูงถึง6.5% ตามมาด้วย PS (FV@B40.45) มีค่า PER ต่ำเพียง 8 เท่า แต่คาดหวัง Div.Yield ได้สูงถึง 4.2%

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.thaibizindonesia.com

ส่วน กลุ่มที่คาดว่าน่าจะเสียประโยชน์ คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าดอกเบี้ยที่ลดลง 0.25% จะทำให้กำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปี 2558 หายไปราว 0.67% จากฐานกำไรที่ประเมินไว้ที่ 2.23 แสนล้านบาทหรือน่าจะหายไปราว 1พันล้านบาท (กระทบต่อ ส่วนต่างดอกเบี้ยรับสุทธิ หรือ NIM โดยพบว่าทุกๆ 25bp ที่อัตราดอกเบี้ยลดลงจะทำให้คาดการณ์ NIM ลดลง 1.44bp จากคาดการณ์ปัจจุบันที่ 3.08% มาที่ 3.07%)

ทั้งนี้คาดว่าธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับผลกระทบสูงสุดกรณีอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงคือ KTB และ BBL เนื่องจากมีโครงสินเชื่อที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในสัดส่วนที่สูงกว่าโครง สร้างแหล่งเงินทุนที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ตรงกันข้ามธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับผลบวกจากดอกเบี้ยขาลงมากที่สุดคือ BAY และ KKP

นักวิเคราะห์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ของ ปรับลดประมาณการและคำแนะนำการลงทุนของกลุ่มที่เท่ากับตลาด เป็นน้อยกว่าตลาด เนื่องจากคาดว่าอัตราการเติบโตของ กำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จะลดลงเหลือเพียง 3.9% หลังการลดลงดอกเบี้ยรอบใหม่ จากปัจจุบันที่เติบโต 8%

 

ขอขอบคุณ http://news.mthai.com/hot-news/economy-news/stock-exchange/441687.html

sendLINE

Comment