การเลือกซื้อและทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ

3.8K



ทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ

 
เครื่องกรองน้ำ
 


โดยเฉลี่ยแล้วคนเราต้องการน้ำประมาณวันละลิตรครึ่ง หรือไม่ต่ำกว่า 8 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยระบบการย่อยและระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายให้คงที่ ดังนั้นการดื่มน้ำที่สะอาดก็สำคัญ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำกรองที่คุณดื่มสะอาดแค่ไหน หากใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อเครื่องกรองมาดูทางนี้


1. มารู้จักเครื่องน้ำกรองกันก่อน

   ก่อนจะนำน้ำมาบริโภค สิ่งที่ควรทำคือหาความรู้เกี่ยวกับเครื่องกรองเสียก่อน เพราะไม่ใช่ว่าเครื่องกรองจะกรองทุกอย่างออกจากน้ำได้หมด ต้องถามตัวเองว่าต้องการกรองอะไรออกไปบ้าง เช่น คลอรีน ไนเตรด ตะกั่ว ฯลฯ

   จากนั้นจึงเลือกฟิลเตอร์ หรือไส้กรองให้เหมาะสม เครื่องกรองแบบที่บรรจุสารกรองที่เป็นถ่านและอนุภาคเรซินนั้น ถ่านจะดูดซับอินทรีย์สารเล็กๆ ขจัดรส กลิ่นไม่พึงประสงค์ และทำลายคลอรีน ขณะที่เรซินที่ดูเหมือนเม็ดทรายจะทำให้น้ำปราศจากประจุไฟฟ้า ซึ่งเป็นอนุมูลอิสระและเปลี่ยนสถานภาพของตัวกลางบางชนิดเช่น เหล็กเป็นไฮโดรเจนอิออน หรือเปลี่ยนเกลือธรรมชาติเป็นอิออน ไฮดรอกไซด์ซึ่งเป็นด่าง เครื่องกรองแบบนี้เมื่อกรองแล้วจะยังมีแบคทีเรียหลงเหลืออยู่ในเครื่อง จึงควรเปลี่ยนไส้กรองบ่อย ๆ และตรวจเช็คความเป็นกรดด่างของน้ำทุกครั้งที่ใช้

* ในน้ำนั้นหากมีสารปนเปื้อนที่มีขนาดมากกว่าถึง Micron = 0.001 มิลลิเมตร จะเป็นสาเหตุที่อาจทำให้เราเจ็บป่วยได้

 

2. วิธีเลือกเครื่องกรองน้ำ

มารู้จักสารกรองชนิดต่างๆ ในเครื่องกรองน้ำดูว่าเครื่องกรองของคุณสามารถกรองอะไรได้บ้าง
- สารกรองแมงกานีส กำจัดสารโลหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารละลายเหล็ก และยังเติมออกซิเจนให้กับน้ำ
- สารกรองแอนทราไซต์ กำจัดตะกอนและสนิมเหล็ก
- สารกรองคาร์บอน ใช้กรองตะกอน กลิ่น สี คลอรีน และสารอินทรีย์
- สารกรองเรซิ่น กรองหินปูน ลดความกระด้างในน้ำและดูดซับสี

          มารู้จักไส้กรองชนิดต่าง ๆ ในเครื่องกรองน้ำ

   -ไส้กรองด้ายพัน  กรองสารอินทรีย์ต่างๆ กรวด หิน ดิน ทราย เป็นขั้นตอนการกรองชั้นแรก ๆ มีความละเอียดในการกรอง 5ไมครอน
   -ไส้กรองเซรามิคหรือเรซิ่น กรองเชื้อโรคในน้ำได้เป็นอย่างดี เช่น เชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรียบางชนิด มีความละเอียดในการกรอง 30ไมครอน
   -ไส้กรองจีบ สำหรับกรองกรวด หิน ดิน ทราย และสนิม ทำความสะอาดง่าย มีความละเอียดในการกรอง 30 ไมครอน
  -ไส้กรองเมมเบรน กรองสารละลายสารปนเปื้อน เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และยังสามารถกรองน้ำเค็มให้จืดสนิท เนื่องจากมีความละเอียดในการกรอง 0.0001 ไมครอน   แต่มีราคาสูงมาก
   -ไส้กรองคาร์บอน กรองให้น้ำสะอาดโดยช่วยดูดกลิ่น รสชาติ และคลอรีน

 

3. เลือกเครื่องกรองน้ำตามลักษณะการเลือกใช้งาน


   เครื่องกรองเล็ก
เหมาะสำหรับการกรองน้ำไว้สำหรับดื่มและใช้ในครอบครัว เครื่องกรองเล็กจะมีขั้นตอนการกรอง 3 ขั้นตอน โดยหลักๆ จะมีการกรองผ่าน คาร์บอน เรซิ่น และเซรามิค นอกจากนี้ ยังเพิ่มขั้นตอนการกรองระบบ UV เพื่อฆ่าเชื้อโรคอีกที

   เครื่องกรองใหญ่
เหมาะกับบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่หรืออาจเป็นร้านค้า ศูนย์อาหาร ภัตตาคารต่างๆ ที่ต้องการใช้น้ำสะอาดเป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับใช้กับน้ำประปาและน้ำบาดาล ขั้นตอนการกรองของเครื่องกรองใหญ่จะเหมือนกับเครื่องกรองเล็ก

   เครื่องกรองระบบ RO
การทำงานของระบบ Reverse Osmosis เป็นการกรองอย่างละเอียดถึง 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย Sediment Filter / Carbon Filter / Carbon Resin / Membrane Filter / Post Carbon ที่ให้คุณภาพน้ำสะอาดบริสุทธิ์ถึง 99.999 % ด้วยความละเอียดของไส้เมมเบรนถึง 0.0001 ไมครอน แม้เครื่องจะใหญ่ขึ้นสักหน่อยแต่สามารถติดตั้งใต้ซิ้งค์ได้

   เครื่องกรอง UV
เป็นการกรองที่เพิ่มการฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัลตร้าไวโอเล็ต หรือแสง UV ซึ่งการกรองแบบยูวีนั้น มีการติดตั้งในเครื่องกรองเล็กและเครื่องกรองระบบRO

อายุการใช้งานของไส้กรองและสารกรอง

หลังจากที่ได้ใช้เครื่องกรองน้ำไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เด็ดขาดคือ เรื่องระยะเวลาการเปลี่ยนสารกรองและไส้กรอง เพราะสารกรองและไส้กรองก็มีอายุการใช้งานเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำที่ผ่านเครื่องกรองด้วย ทางที่ดีเราควรเปลี่ยนสารกรองและไส้กรองให้ตรงตามกำหนดเวลา

ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนไส้กรองประเภทต่าง ๆ

1. ไส้กรอง 2 in 1 /3 - 6 เดือน
2. ไส้กรองจีบ /3 - 6 เดือน
3. ไส้กรองด้ายพัน P5 /3 - 6 เดือน
4. ไส้กรองด้ายพัน /3 - 6 เดือน
5. ไส้กรองคาร์บอน /1 ปี
6. ไส้กรองเรซิ่น /1 ปี
7. ไส้กรองเซรามิคส์ /1 - 1 ปีครึ่ง
8. ไส้กรองเมมเบรน /1 - 1 ปีครึ่ง
9. สารกรองคาร์บอน /1 ปี
10. สารกรองแอนทราไซด์ /1 ปี
11. สารกรองแมงกานิส /1 ปี
12. สารกรองเรซิ่น /1 ปี
13. โพสคาร์บอน /2 ปี

หลักการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ

          ดูสภาพน้ำที่ใช้อยู่ เช่น น้ำประปาหรือน้ำบาดาล หากเป็นน้ำประปาทั่วไป ควรใช้แบบ RO. หรือ UV.เพราะมีการออกแบบไส้กรองสำหรับใช้กับน้ำประปาโดยตรง แต่หากเป็นน้ำบาดาล ควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญการเพื่อเช็คสภาพน้ำว่ามีความเป็นกรด-ด่างหรือไม่ หรือมีหินปูนมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้เพิ่มสารกรองหรือไส้กรอง จำพวกเรซินลงไป

          ราคา หากมีเงินมากหน่อย แนะนำแบบ RO. เพราะสะอาดที่สุดและมั่นใจได้ 100% รองลงมาราคาถูกลงมาหน่อยก็เป็นแบบUV นอกเหนือจากนี้ไม่อยากแนะนำเนื่องจากอาจจะได้คุณภาพน้ำที่ไม่คุ้มค่าเงินแล้วยังไม่จำเป็นหรือเกินความจำเป็นอีกด้วย

          รูปทรง ในปัจจุบันมีการออกแบบใหม่ ๆ เพื่อให้สวยงาม ไม่ต้องแอบซ่อนและเข้ากับทุกพื้นที่ แต่หากต้องการความเรียบร้อยโดยการซ่อนแนะนำให้ดูขนาดและความสูงในการติดตั้งให้ดีก่อน

          เช็คดูบริการหลังการขาย ว่ามีการบริการเปลี่ยนไส้กรอง หรือมีไส้กรองขายให้หลังจากซื้อเครื่องแล้วหรือไม่ รวมทั้งดูการให้บริการของบริษัทฯ ต่าง ๆ ในการเช็คคุณภาพน้ำให้ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนไส้กรองซึ่งมีทั้งจากผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายคอยให้บริการ อย่างโฮมโปรเองก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่ไว้วางใจได้

วิธีทำความสะอาดไส้กรองอย่างถูกวิธี

         หากเครื่องกรองน้ำดีแต่ไม่ได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดี จะส่งผลให้เครื่องกรองน้ำมีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกลดลง รวมทั้งสิ่งสกปรกที่หมักหมมจะทำให้น้ำปนเปื้อนและไม่สะอาดระยะเวลาที่ควรเข้าตรวจเช็ค 4 ครั้ง/ปี  

          9 ขั้นตอนการล้างและตรวจเช็คเครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐานของบริการ Home care จากโฮมโปร

1. ล้างทำความสะอาดฟิลเตอร์ กรองน้ำเข้า
2. ล้างสารกรองน้ำ (คาร์บอน / เรซิน / เซรามิค)
3. ทำความสะอาดตัวเครื่อง
4. ตรวจวัดปริมาณน้ำเกลือ (เฉพาะรุ่น)
5. ตรวจสอบแผงควบคุม และการทำงานของเครื่อง (เฉพาะรุ่น)
6. ตรวจสอบจุดต่อของข้อต่อต่างๆ
7. ตรวจวัดค่าแรงดัน (Volt) (เฉพาะรุ่น)
8. ตรวจวัดค่ากระแส (Amp) (เฉพาะรุ่น)
9. ลงน้ำยาเคลือบพื้นผิวตัวสินค้าภายนอก

 


ข้อมูล : www.homepro.co.th/knowledge-center/home-guru/ทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ
รูปภาพ : http://www.safetydrink.com/

sendLINE

Comment